เมนู

อรรถกถาทารุกขันธสูตร


พึงทราบวินิจฉัยในทารุกขันธสูตรที่ 11 ดังต่อไปนี้ :-
บทว่า เจโตวสิปฺปตฺโต ได้แก่ ผู้ถึงความเป็นผู้มีอำนาจจิต. บทว่า
ปฐวีเตฺวว อธิมุจฺเจยฺย ความว่า พึงกำหนดอาการที่แข้นแข็ง ว่าธาตุดิน.
บทว่า ยํ นิสฺสาย ความว่า อาศัยปฐวีธาตุอันใด ที่มีอาการกระด้างมีอยู่.
(ภิกษุผู้มีฤทธิ์) พึงน้อมใจไปยังท่อนไม้โน้นว่าเป็นดิน ปฐวีธาตุนั้น มีอยู่ใน
ท่อนไม้นี้. เพราะฉะนั้น แม้บทที่เหลือพึงทราบโดยนัยนี้. อธิบายว่า ใน
ท่อนไม้นั้นมีปฐวีธาตุ ที่มีอาการแข้นแข็งฉันใด อาโปธาตุที่มีอาการเกาะกลุ่ม
เตโชธาตุที่มีอาการอบอุ่น วาโยธาตุที่มีอาการเคลื่อนไหล ก็มีอยู่ในท่อนไม้นั้น
เหมือนกัน. สุภธาตุใดที่มีสีเหมือนดอกปทุม มีอยู่ในแก่นไม้ที่มีสีแดง
(ภิกษุพึงน้อมใจไป คือกำหนดท่อนไม้โน้น โดยอาศัยสุภธาตุนั้น ว่า สุภํ
งาม ดังนี้) อสุภธาตุใดที่มีสีไม่น่าพอใจ มีอยู่ในจุณที่เน่า และในกระพี้
และสะเก็ดทั้งหลาย (ของต้นไม้) ภิกษุน้อมใจไป คือกำหนดท่อนไม้ท่อนโน้น
โดยอาศัยอสุภธาตุนั้นนั่นแหละ ว่า อสุภํ ไม่งามดังนี้. ในพระสูตรนี้ท่าน
กล่าวชื่อว่า มิสสกวิหาร.
อรรถกถาทารุกขันธสูตรที่ 11

12. นาคิตสูตร


ว่าด้วยการไม่ติดยศและไม่ให้ยศติดตน


[313] ข้าพเจ้าได้สดับมาแล้วอย่างนี้ :-
สมัยหนึ่ง. พระผู้มีพระภาคเจ้าเสด็จจาริกไปในแคว้นโกศล พร้อม
ด้วยภิกษุสงฆ์หมู่ใหญ่ ได้เสด็จถึงพราหมณคามของชาวโกศลชื่ออิจฉานังคละ
ได้ยินว่า ณ ที่นั้น พระผู้มีพระภาคเจ้าประทับ ณ ไพรสณฑ์ชื่ออิจฉานังคละ
ใกล้อิจฉานังคลคาม
พราหมณ์และคฤหบดีชาวบ้านอิจฉานังคละได้สดับข่าวว่า พระสมณ-
โคดมศากยบุตร เสด็จออกบวชจากศากยสกุล เสด็จถึงบ้านอิจฉานังคละ
ประทับอยู่ ณ ไพรสณฑ์ชื่ออิจฉานังคละ ใกล้อิจฉานังคลคาม ก็เกียรติศัพท์
อันงามของท่านพระโคดมพระองค์นั้น ขจรไปแล้วอย่างนี้ว่า เพราะเหตุนี้ ๆ
พระผู้มีพระภาคเจ้าพระองค์นั้น เป็นพระอรหันต์ ฯลฯ เป็นผู้เบิกบานแล้ว
เป็นผู้จำแนกธรรม พระองค์ทรงทำโลกนี้พร้อมทั้งเทวโลก มารโลก พรหมโลก
ให้แจ้งชัดด้วยปัญญาอันยิ่งของพระองค์เองแล้ว ทรงสอนหมู่สัตว์พร้อมทั้ง
สมณพราหมณ์ เทวดาและมนุษย์ให้รู้ตาม ทรงแสดงธรรมไพเราะในเบื้องต้น
ไพเราะในท่ามกลาง ไพเราะในที่สุด ทรงประกาศพรหมจรรย์ พร้อมทั้งอรรถ
ทั้งพยัญชนะ บริสุทธิ์ บริบูรณ์สิ้นเชิง ก็การได้เห็นพระอรหันต์ทั้งหลายเห็น
ปานนั้น ย่อมเป็นการดี ดังนี้ ครั้นนั้น พราหมณ์และคฤหบดีชาวบ้านอิจฉา-
นังคละ เมื่อล่วงราตรีนั้นไปแล้ว ถือขาทนียโภชนียาหารเป็นอันมาก ไปยัง
ไพรสณฑ์ชื่ออิจฉานังคละ แล้วได้ยืนอยู่ที่ซุ้มประตูภายนอก ส่งเสียงอื้ออึง.